วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ที่มาของรายได้

ที่มาของรายได้



มีวิธีคำนวณรายได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.ผลตอบแทนจาก โฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์
2.ผลตอบแทนจาก การค้นหาเว็บไซต์
3.ผลตอบแทนจาก การแนะนำ

1.ผลตอบแทนจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ (AdSense for Content)
ผลตอบแทนจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ เป็นผลตอบแทนจากโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องและกลมกลืนกับเนื้อหาในเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับวิธีการหาเงินทางอินเทอร์เน็ต ก็จะมีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการทำงานหาเงินทางอินเทอร์เน็ตก็คือ เว็บไซต์มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรโฆษณาก็เป็นโฆษณาเหมือนกับเนื้อหาในเว็บไซต์ นั่นเอง

วิธีคำนวณผลตอบแทน(1.) จ่ายผลตอบแทนเมื่อคลิก (Pay Per Click - PPC)
ผลตอบแทนจากการคลิกโฆษณา เมื่อผู้เยี่ยมเว็บไซต์ได้คลิกที่โฆษณาของ Google ทำให้เว็บไซต์ได้รับผลตอบแทนทันทีเมื่อคลิก โดยแต่ละโฆษณาที่คลิกจะได้รับผลตอบแทนไม่แน่นอน ผลตอบแทนมาก หรือน้อย นั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ลงโฆษณากับ Google Adwords ว่าลงโฆษณาได้ในราคาที่สูง หรือต่ำ ถ้าหากลงโฆษณาในราคาสูงไว้ ผลตอบแทนจากคลิกโฆษณานั้นก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าในทางกลับกัน ถ้าได้ลงโฆษณาในราคาต่ำ ผลตอบแทนจากคลิกโฆษณานั้นก็ย่อมได้น้อยด้วยเช่นกัน นั่นเอง

(2.) จ่ายผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา (Pay Per Impression - CPM)
ผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา ทุกครั้งเมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีโฆษณาของ Google ก็จะเกิดรายได้จากการแสดงโฆษณา โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่า จะนำมาคำนวณรายได้ก็ต่อเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง แต่จะต้องมีผู้เยี่ยมชมคลิกโฆษณาด้วย โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม หรือ ที่เรียกว่า Cost Per Thousand Impression (CPM)

สรุปรายได้จากการแสดงโฆษณานี้จะโดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
(1.1) แสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง
(1.2) ต้องมีผู้เยี่ยมชมคลิกโฆษณาด้วย ถ้าหากไม่มีผู้คลิกโฆษณาเลย รายได้นี้ก็ยังไม่คิดให้จนกว่าจะมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกโฆษณาด้วยเท่านั้น

2. ผลตอบแทนจาก.. การค้นหาเว็บไซต์ (AdSense for Search)
ค้นหาแล้วจะพบรายชื่อเว็บไซต์โฆษณาอยู่ในตำแหน่งสปอนเซอร์ ซึ่งอยู่ด้านบน และด้านล่างของหน้าผลลัพธ์ที่ได้ค้นหา ถ้าผู้เข้าชมคลิกโฆษณาในตำแหน่งดังกล่าว เว็บไซต์เราก็จะได้รับรายได้ มีตัวอย่างกล่องค้นหาเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้จริง โดยผลตอบแทนก็คิดคำนวณเหมือนกับ ข้อ 1.1 และ ข้อ 1.2

3. รายได้ของโฆษณาจากการแนะนำบริการ (Referrals)
นอกจากนี้ Google AdSense ยังให้โอกาสการสร้างรายได้จากโฆษณา แบบแนะนำบริการต่างๆ ของ Google อีกด้วย ก็คือ เมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกโฆษณาแนะนำบริการ และได้ใช้บริการนั้นๆ คุณก็ได้รับรายได้อีกด้วย ได้แก่

(1.) แนะนำสมัคร Google AdSense
คุณจะได้รับรายได้เมื่อมีคนมาลงทะเบียนเป็นสมาชิก Google AdSense โดยคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และผู้สมัครคนนั้น ทำรายได้เกิน $5 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณก็จะได้รับ $5 ด้วยเช่นกัน และ ถ้าผู้สมัครคนนั้น ทำรายได้ครบ $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณก็จะได้รับ $250 อีก ถ้าผู้สมัครคนนั้น ภายในช่วงระยะเวลา 180วัน หรือ ครึ่งปี

ถ้าคนที่สมัครผ่านจากการแนะนำของคุณ 25 คน แล้วทำได้เกิน $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับโบนัส $2,000 (โดย bonus limit แค่ครั้งเดียวต่อ1ปี หรือหมายถึงถ้าเราหาได้ 50 คนแล้ว 50 คนทำได้หมดเราก็ได้ bonus แค่ 25คนแรกนั้น)

(2.) แนะนำสมัคร Google AdWords
คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนมาลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อใช้บริการ Google AdWords โดยคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และผู้สมัครคนนั้น ใช้บริการของ Google AdWords $5 ภายใน 90 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะรับรายได้ $5 และ ผู้สมัครคนนั้น ใช้บริการของ Google Adwords $100 ภายใน 90 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับ $40 ถ้าภายในช่วงระยะเวลา 180 วัน หรือ ครึ่งปี

ถ้าคนที่สมัครผ่านการแนะนำของคุณ 20 คน ใช้บริการของ Google Adwords $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับโบนัสจาก Google จำนวน $600 (โดย bonus limit แค่ครั้งเดียวต่อ1ปี หรือหมายถึง ถ้าเราหาได้ 40 คน แล้วใช้บริการของ Google Adwords ได้ตามเป้าทุกคน คุณจะรับได้โบนัส 20 คนเท่านั้น)

(3.) Firefox : ดาวน์โหลด ฟรี!
โปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ตได้เร็วกว่า Internet Explorer และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีอีกด้วย
คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนมาคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้ โดยจะต้องเป็นการดาวน์โหลดครั้งแรก ก็คือไม่เคยดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้มาก่อน ซึ่งทาง Google ก็จะมอบรายได้จากการแนะนำของคุณ จำนวน $1 ทันที

(4.) Google Apps
Google Apps คือระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งในระบบจะมีบริการต่างๆที่สมาชิกในกลุ่มใช้ได้ เช่น อีเมลล์ ระบบการการสนทนาผ่าน Instant Massaging ระบบปฎิทิน ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช่ร่วมกันได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างภายในสมาชิก ระบบทั้งหมด Google เป็นผู้ให้บริการ โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์และค่าซอฟท์แวร์แต่อย่างใด รวมถึงไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา

คุณจะได้รับ $5 จากที่มีผู้สนใจคลิกโฆษณา Google Apps ผ่านเว็บไซด์ของคุณและได้ทำการลงทะเบียนอย่างเสร็จสมบูณณ์ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่สนใจไม่ได้สมัคร Google Apps ทันทีก็ตามระบบจะเก็บขอมูลการคลิกโฆษณา Google Apps จากเว็บไซด์ของคุณต่ออีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นหมายถึงเขาอาจจะสมัครหลังจากนั้นก็ได้ แล้วคุณก็ยังได้รับรายได้อยู่

(5.) Google Checkout
Google Checkout คือระบบการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สะดวก ปลอดภัยและรวดเร็ว ด้วยระบบการรับชำระของ Google Checkout คุณสามารถทำรายการสั่งซื้อและจ่ายค่าสินค้าตลอดจนตรวจสอบรายการ การสั่งซื้อหรือการจ่ายค่าสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บไซด์

คุณจะได้รับ $1 ถ้ามีผู้ที่สมัครบัญชี Google Checkout ผ่านการแนะนำจากเว็บไซด์ของคุณ และได้ทำรายการสั่งซื้อสินค้าภายใน 90 วันและรายการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์จนการชำระค่าสินค้าเสร็จสิ้น โดยมูลค่าของสินค้าต้องมีมูลค่า $10 ขึ้นไป ก่อนที่รวมภาษีและค่าขนส่ง ภายใน 7 วัน

Step 8 : การตรวจเช็ครายได้ / รับเงิน

Step 8 : การตรวจเช็ครายได้ / รับเงิน



การตรวจเช็ครายได้จะทำให้รู้ว่าแต่ละวันคุณทำเงินได้เท่าไรบ้าง

เมื่อเรา Login เข้า Google AdSense จะเห็นยอดเงินประจำวันของคุณ
Today's Earnings : $9999.00
คุณสามารถเลือกดูได้จาก View ว่า

- วันนี้คุณได้เท่าไหร่

- เมื่อว่านนี้ ได้เท่าไหร่

- 7 วันล่าสุดได้เท่าไหร่

- เดือนนี้ ได้เท่าไหร่

- เดือนล่าสุด ได้เท่าไหร่

- รวมทั้งหมดได้เท่าไหร่

Google จะจ่ายเงินให้คุณก็ต่อเมื่อคุณมีรายได้ครบ 100$ เมื่อคุณมีรายได้ 50$ ทาง Google จะส่ง PIN มาให้คุณ ทางจดหมาย ตามที่อยู่ที่ได้สมัครไว้ ดังนั้นให้ตรวจเช็คที่อยู่ของคุณให้ถูกต้องนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ส่งมา ระยะเวลาในการจัดส่งอยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่ของผมรอประมาณ 18 วัน
การกรอกข้อมูล PIN

1.ให้ Login เข้า Google AdSense จากนั้นจะเห็นข้อความ You payments are currently on hold.
Action is required to release payment Click here for details ให้คลิกที่ Click here for details

2.ที่ Required Action ให้คลิกที่ Please enter your PIN

3.ใส่หมายเลข PIN ของคุณ แล้วคลิก Submit PIN เสร็จสิ้นขั้นตอนการยืนยันการมีตัวตนเพื่อรับเงินครับ

4.จากนั้นเมื่อเราทำยอดถึง 100$ ทาง Google จะส่งเช็คมาให้รอสัก 1-3 สัปดาห์มาถึงเราให้คุณนำเช็คนั้น ไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ถ้าคุณเลือกรับเงินเป็น Thai Baht คุณจะได้รับเช็คเร็วมากประมาณวันที่ 7 ก็จะได้รับเช็คแล้ว เช็คที่ส่งมาให้จะออกโดย ซิตี้แบงค์ สีลม นี่เองครับ

Step 7 : การโปรโมท Blogger

Step 7 : การโปรโมท Blogger



การโปรโมทเว็บบล็อกโดยการ แนะนำเว็บไซต์/บล็อกของเรากับ Search Engine นั่นเอง

แหล่งรวม Search Engine , Submit URL กับ Search Engine ชื่อดังhttp://www.google.com/addurl.html

http://search.yahoo.com/info/submit.html

http://search.msn.co.in/docs/submit.aspx

http://www.exactseek.com/add.html

http://www.look.com/remote/submiturl.asp

http://www.dmoz.org/add.html

http://www.altavista.com/addurl/default

http://www.alexa.com/support/get_archive.html

http://www.aesop.com/cgi-bin/aesopadd.cgi

http://www.exactseek.com/add.html

http://theyellowpages.com/ysubmit.htm

http://www.goguides.org/info/addurl.htm

http://www.netsearch.org/addurl.html

http://www.entireweb.com/addurl?page=basic

- รวม Search Engine กว่า 350 เว็บ >>> http://seo-promote.blogspot.com/

- แหล่งโปรโมทเว็บในไทย >>> http://www.bcoms.net/promoteweb/addweb.asp

- แหล่งโปรโมทเว็บต่างประเทศ >>> http://www.bcoms.net/eng_tipcomputer/addurl.asp

- เข้าไปโพสต์ข้อความตามเว็บบอร์ดต่างๆ พร้อมทิ้งที่อยู่ของเว็บไว้ด้วย (กลยุทธ์เอาเหยื่อไปล่อ)- อีกวิธี ที่จะทำให้เว็บเป็นที่รู้จักด้วยการทำ E-mail List- เล่น msn หรือ Yahoo Messenger หรือ Chat- แลกลิงค์ (link)

** เมื่อคุณได้เดินทางมาถึงขั้นนี้แล้ว หมั่นโปรโมทเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก คงไม่นานจะมีรายได้จากธุรกิจ จับเสือมือเปล่านี้อย่างแน่นอนครับ **

Step 6 : การติดโฆษณาลง Blog

Step 6 : การติดโฆษณาลง Blog



ในบทเรียนนี้ จะได้เรียนรู้วิธีนำ Code มาติดที่บล็อกของเรา เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เริ่มกันเลยครับ

1.Login เข้าไปที่ >>> Blogger.com

2.ใส่รหัสผู้ใช้อีเมลของคุณ xxxxxx@gmail.com และ รหัสผ่าน xxxxxxxxxx ของท่าน3.จะปรากฎหน้าต่าง จัดการบล็อกของคุณ (Dashboard) ให้เราคลิกที่ >>> เลย์เอาต์(รูปแบบ)4.จากนั้นคลิกที่ >>> เพิ่มองค์ประกอบของหน้า5.จากนั้นคลิกที่ >>> HTML/จาวาสคริปต์6.ให้นำ Code ที่ได้นำมาจาก AdSense นำมาใส่ที่กรอบเนื้อหา7.จากนั้นคลิกที่ >>> จัดเก็บการปรับเปลี่ยน8.จะเห็นแถบ HTML/จาวาสคริปต์ ที่เก็บโฆษณาอยู่ ซึ่งเราสามารถที่จะคลิกลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ คลิกซ้ายที่ HTML/จาวาสคริปต์ค้างไว้แล้วลากไปทางซ้าย ทางขวา ด้านบน หรือได้ล่างก็ได้ครับ9.จากนั้นคลิกที่ >>> บันทึกข้อมูล >>> คลิกที่ >>> ดูบล็อก

**เพียงเท่านี้บล็อกของคุณก็มีโฆษณาเพื่อทำเงินให้คุณได้แล้วครับ**

Step 5 : นำโฆษณามาจาก Adsense

Step 5 : นำโฆษณามาจาก Adsense



วิธีนำ Code โฆษณามาจาก Google AdSense
1. หลังจากสมัคร Google AdSense ผ่านเรียบร้อยแล้ว ให้คุณ Login เข้า Google AdSense

2. เมื่อ Login เข้า Google AdSense เป็นที่เรียบร้อยแล้วให้คลิกที่ AdSense Setup จะมี Ads (โฆษณา) ให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้

(1.) AdSense for content : เป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเว็บไซต์ ซึ่งแบ่งออก 2 ข้อย่อย ดังนี้

- Ad unit : สร้างโฆษณาแบบข้อความอย่างเดียว, สร้างโฆษณาแบบรูปภาพอย่างเดียว หรือ สร้างโฆษณาแบบข้อความสลับแบบรูปภาพก็ได้ โดยโฆษณานั้นจะมีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 3 อัน ดูขนาดของโฆษณา (คริกเพื่อดูขนาดโฆษณา)

- Link unit : สร้างโฆษณาแบบลิงค์ ซึ่งลักษณะโฆษณาเหมือนลิงค์ หรือ หัวข้อของเว็บไซต์ ซึ่งโฆษณานั้นก็จะมีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ เช่นกัน ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 3 อัน ดูขนาดของโฆษณา (คริกเพื่อดูขนาดโฆษณา)

3. เมื่อเลือกได้แล้วว่าต้องการโฆษณาอันไหน จากนั้นกดที่ปุ่ม Continues >>

4. หน้าถัดมานี้ ให้เรากำหนด
- Format : ให้เลือกขนาดของโฆษณา - Colors : เป็นการปรับแต่งสีของโฆษณาให้เหมาะกับเว็บ/บล็อกของเรา - Corner Styles : เป็นการเลือกรอบโฆษณา เช่น กรอบสี่เหลี่ยม ฯลฯ เมื่อได้ตามต้องการแล้ว คลิกปุ่ม Continues >>>

5. จากนั้นจะเห็นแถบ Add new Channel เป็นการกำหนดว่าจะนำโฆษณาชุดนี้ไปติดที่เว็บไหน เพื่อที่จะรู้ว่าเว็บไหนทำเงิน
ในส่วนนี้จะเพิ่มหรือไม่เพิ่มก็ได้ ถ้าไม่ต้องการ ก็สามารถคลิก Contines >> ได้เลย
- เพียงเท่านี้เราก็จะได้โค๊ดโฆษณาทำเงินสำหรับติดที่เว็บ/บล็อกแล้วครับ
- ให้ คัดลอก(Copy) Code แล้วเปิดโปรแกรม Notepad (ซึ่งจะมีอยู่ทุกเครื่องไปที่ Start > Programs > Accessories > Notepad) จากนั้นให้ วาง(Paste) Code ใส่ในโปรแกรม Notepad และ Save เก็บไว้สามารถนำมาใช้ได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องมาสร้างใหม่ครับ

(2.) AdSense for search : เป็นการสร้าง Code โฆษณา เพื่อจะได้กล่องสำหรับค้นหาเว็บไซต์ เป็นกล่องค้นหา สำหรับมาติดในเว็บไซต์ ซึ่งผู้เยี่ยมชมใช้ค้นหาเว็บไซต์ได้ทั่วโลก และยังใช้ในการค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณก็ได้ สามารถปรับแต่งกล่องค้นหาเว็บไซต์ ให้เข้ากับเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 2 อัน มีขั้นตอนในการนำโค๊ดดังนี้
1. ไปที่ AdSense Setup2. คลิกที่ AdSense for Search
จากนั้นจะพบกับ Search Type ซึ่งมีให้เลือก 2 อย่างคือ
- Google WebSearch :
- Google WebSearch + SiteSearch3. สามารถเลือกได้ว่าจะให้ค้นหาจาก Google อย่างเดียว หรือให้ค้นหาในเว็บไซต์ของเราด้วย ถ้าต้องการให้ค้นหาในเว็บของเราด้วย ก็ให้ใส่ชื่อเว็บของเราลงไป4. ในส่วนของ Search box style เป็นการปรับแต่ง Search Box ทดลองปรับดูนะครับให้เหมาะกับเว็บเรา5. ต่อมาในส่วนของ Site language เป็นการเลือกภาษา ให้เลือกเป็น English6. ในส่วนของ Opening of search results page เป็นการกำหนดว่า เมื่อคลิกค้นหาแล้ว จะให้แสดงในหน้าต่างเดียวกัน หรือเปิดเป็นหน้าใหม่
- ในส่วนของ Your site encoding เป็นการเลือกว่าเว็บของเรานั้นใช้รหัสแบบใด แนะนำให้เลือกเป็น Unicode (UTF-8) จากนั้นคลิก Contines>> คลิก Contines >>>
- เพียงเท่านี้เราก็ได้โค๊ดโฆษณาของกล่องค้นหา Search Box แล้วครับ

(3.) Referrals : เป็นโฆษณาเพื่อแนะนำบริการต่าง ๆ ของ Google
รายได้จากการแนะนำสินค้าและบริการของ Google มีให้เลือกมากมาย แต่ของ Google มีอยู่ 3 อันหลักๆ ดังนี้
- Google AdSense : แนะนำ AdSense ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 1 อัน
- Google AdWords : แนะนำ AdWords ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 1 อัน
- Firefox : แนะนำให้ดาวน์โหลด Firefox ในแต่ละหน้าเว็บเพจติดได้ 1 อัน

ขั้นตอนในการนำโค๊ดโฆษณามาใช้งาน
1. ไปที่ AdSense Setup2. คลิกเลือที่ Referrals3. จากนั้นจะเห็น All Product สินค้ามากมาย ซึ่งทุกตัวจะทำขั้นตอนเดี่ยวกัน ดังนั้นในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง 1 สินค้า เป็น Firefox ก็แล้วกันนะครับ- คลิกที่ View products (อยู่ต่อจาก Google Products >>> View Products) จะเห็นสินค้าอยู่ 3 ตัว ให้เลือกเอาว่าต้องการอันไหน เช่น ผมต้องการสินค้า Firefox ก็คลิกที่ Firefox plus Google Toolbar
- จากนั้นจะเห็นรูปแบบต่างๆ ขนาดต่างๆ ของสินค้า สามารถเลือกได้ตามต้องการครับ โดยคลิกให้มีเครื่องหมายถูกด้านหน้า
- จากนั้นคลิก Continues >>> (อยู่ด้านล่างสุด)
- เพียงเท่านี้ก็ได้โค๊ดสินค้า FireFox เพื่อทำเงินแล้วครับ ใครมาดาวน์โหลดจากเว็บเรา เราก็ได้เงินสบายๆ ครับ

Step 4 : การสมัคร Google Adsense

Step 4 : การสมัคร Google Adsense



ขั้นตอนการสมัคร Google AdSense
1.การสมัคร Google AdSense ดังที่เราได้แนะนำการสร้างเว็บบล็อกเป็นภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว2.ในเว็บบล๊อคของผม ให้คุณลองมองไปทางขวามือ >>>>>> แล้วคริก สมัคร Google Adsense3.ให้ คริก >>> Sign up now (คือปุ่มการสมัครนั่นเอง)4.จากนั้นให้ พิมพ์ข้อมูลต่างๆ ที่ทาง Google กำหนด โดยพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ ดังนี้

Website Information
- Website URL : [?] : ใส่ชื่อเว็บไซต์/บล็อกของคุณ เช่น : http://freemoney-boatsang.blogspot.com/
- Website language : เลือกภาษา ให้คุณเลือกเป็น : English - English

Contact Information
- Account type: [?] : เลือกประเภทของเว็บคุณ
(1.บุคคลธรรมดา : Individual)
(2.องค์กรธุรกิจ/บริษัท : Business)
- Country or territory : อยู่ในประเทศเลือก : ประเทศไทย
- Payee name : (full name) ชื่อผู้รับเงิน (ให้ใส่ทั้งชื่อ และนามสกุลของคุณ)
- Address line 1 : เลขที่ตั้ง ซอย ถนน
- Address line 2 (optional): แขวง/ตำบล
- City : เขต/อำเภอ
- State, province or region : จังหวัด
- Zip or postal code : รหัสไปรณีย์
- Phone : หมายเลขโทรศัพท์ เช่น 087-606-3510 ก็ใส่เป็น 66876063510
- Fax (optional) : หมายเลขโทรสาร (เว้นว่างไว้ก็ได้)

Product Selection
- AdSense for Content : ให้ทำเครื่องหมายถูก
- AdSense for Search : ให้ทำเครื่องหมายถูก
- Policies : ให้ทำเครื่องหมายถูก ทุกอัน (กฎเบื้องต้นของ AdSense)
- จะไม่คลิกโฆษณาบนเว็บของตัวเอง ให้คนอื่นคลิก
- ไม่วางโฆษณาในบริเวณกระตุ้นการคลิก เช่น Download
- ยินยอมที่จะให้สั่งจ่ายเช็คตามผู้รับด้านบน
- ไม่วางโฆษณาในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ลามกอนาจาร เป็นต้น
- คุณได้อ่านตามข้อกำหนดใน Adsense Program Policy แล้ว

5.เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ >>> Submit Information6.คลิกหัวข้อที่ 2 : I have an email address and password I already use.....7.จากนั้นคลิกที่หัวข้อแรก : I'd like to use my existing Google Account for AdSense.8.ใส่อีเมลและพาสเวิร์ด ของเรา (Gmail)9.เป็นการแจ้งจาก Google AdSense ว่าจะให้ รอประมาณ 1-3 วัน เพื่อให้ทาง Google AdSense วิเคราะห์เว็บไซต์/บล็อกที่เราส่งไปสมัคร Google จะตอบกลับมาทางอีเมล์

ปล.ย้ำนะครับ ทาง Google จะวิเคราะห์ บล๊อกของเราประมาน 1-3 ดังนั้นให้เพื่อนๆคอยเช็ค Gmail ด้วยนะคับ

เมื่อทาง Google AdSense วิเคราะห์เว็บเราเสร็จแล้ว ก็จะแจ้งมาทางอีเมล เพื่อให้ยืนยันการมีตัวตนอีกครั้ง ให้เข้าไปดูที่อีเมลของเรา จะมีข้อความส่งมาจาก Google AdSense (ระยะเวลาในการส่งเมลมาประมาณ 1-3 วัน จากที่ได้สมัคร) ข้อความจะปรากฎด้านล่างครับ เป็นการแสดงความยินดี Welcome to Google AdSense



ให้คลิกที่ >> Visit https://www.google.com/adsense?hl=en US จากเมลของคุณ



จากนั้นคลิกเครื่องหมายถูกที่ [/] By Checking......I Accept และคลิกที่ I Accept ยอมรับ

หลังจากนั้น ให้ยืนยันข้อมูลทางภาษ
1. คลิกที่ หัวข้อ My Account2. คลิกหัวข้อย่อย Tax Information และให้ทำเครื่องหมายที่วงกลม เลือก No และ กดปุ่ม Continue3. หน้าถัดมา Do you have U.S. Activities related to you participation in AdSense? ให้เลือกNo และ กดปุ่ม Continue4. หน้าถัดมา ให้ใส่ชื่อ - นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ ใน Signature of Publisher... และนี่ถือว่าเป็นลายเซ็นของคุณ และ กดปุ่ม >>> Submit information5. เพียงเท่านี้ ก็ถือว่าได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้น ให้เลือกการรับเงินรายได้
1. คลิกที่ หัวข้อ My Account2. คลิกหัวข้อย่อย Payment History3. คลิกที่ Please select or verify a form of payment4. ให้ทำเครื่องหมาย ที่วงกลม : Check - Standard Delivery และ กดปุ่ม Continue5. ในหน้าถัดมา ให้เลือกสกุลเงินที่ต้องการ ให้เลือก Thai Baht (THB) และ กดปุ่ม Save change

**เพียงเท่านี้ คุณก็เป็น Publisher : ผู้เผยแพร่โฆษณาทางอินเทอร์เน็ต สามารถทำเงิน ด้วยการแสดงโฆษณา ด้วยธุรกิจของคุณเอง 100%**

Step 3 : วิธีใช้งาน Blogger

Step 3 : วิธีใช้งาน Blogger สร้างเว็บบล็อก



เราจะได้ศึกษาถึงวิธีการใช้งานเว็บบล็อกกันว่า วิธีการเพิ่มเนื้อหารายละเอียดเขาทำกันอย่างไร?

1.ให้เราคลิกที่ เริ่มต้นส่งบทความจะปรากฎหน้าต่างด้านล่าง ซึ่งจะให้เราใส่ข้อความ / รูปภาพ ตามความต้องการโดยการคลิกที่ สร้าง -ชื่อเรื่อง (คือหัวข้อเรื่องที่เราต้องการ) และมีพื้นที่สำหรับการใส่ข้อความ, รูปภาพเป็นต้น2.หากใครที่ปิดขั้นตอนการทำงานไปแล้วจากบทที่ Step 2 แล้ว ก็สามารถ Login เข้ามาใหม่โดย >>> คริกที่นี่

3.ให้เราพิมพ์ E-mail ที่เราได้สมัครไว้กับ Gmail เช่น-รหัสผู้ใช้ : xxxxxxxxx@gmail.com

-รหัสผ่าน : xxxxxxxxxxxx4.จากนั้นคลิกที่ >>> ลงชื่อผู้ใช้งาน

ต่อมาเราจะมาดูวิธีการหาบทความ / รูปภาพมาใส่เว็บบล็อก
มาเริ่มสร้างสรรผลงานกันต่อครับ ในส่วนของการนำข้อความ/บทความมาใส่เว็บบล็อกของเรานั้น แนะนำให้ใช้เป็นภาษาอังกฤษก่อนนะครับ (เพื่อเอาเว็บบล็อกอันนี้ไปสมัคร AdSense ให้ผ่านก่อน เมื่อผ่านแล้วจะมาสร้างเว็บที่มีเนื้อหา ภาษาไทยก็ได้ครับ ย้ำว่า ครั้งแรกต้องเป็นภาษาอังกฤษให้ผ่านก่อน) ให้มีเนื้อหาพอสมควรเพราะว่าเราจะต้องใช้เว็บบล็อกอันนี้ในการขอสมัครใช้งานจาก Google AdSense เพื่อที่จะนำโฆษณามาทำมาหากินได้

แหล่งรวบรวมบทความเนื้อหาภาษาอังกฤษฟรีๆ1. http://www.goarticles.com/

2. http://www.contentmart.com/

3. http://www.superfeature.com/

4. http://www.freshcontent.net/

ต่อมาคือขั้นตอนการใส่บทความนะคับ1.ให้ทำการคัดลอกเนื้อหาภาษาอังกฤษ มาวางไว้ในเว็บบล็อกของท่าน2.เนื้อหาบทความในเว็บอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 2 หน้ากระดาษ A4 เพื่อให้ทาง Google วิเคราะห์ เว็บไซต์ ถ้าเนื้อหาน้อยเกินไป อาจจะไม่ผ่าน เนื่องจากเป็นเว็บไม่ได้มาตรฐาน3.ถ้าหากคุณใช้เว็บที่มีเนื้อหาเป็นภาษาไทย ณ ขณะนี้ ผมฟันธงได้เลยว่า จะสมัครไม่ผ่าน เนื่องจากทาง Google AdSense ยังไม่รองรับเว็บที่มีเนื้อหาภาษาไทยครับ แต่ถ้าเป็นเนื้อหาภาษาอังกฤษ และมีรายละเอียดมากพอสมควร ผมมั่นใจว่าต้องผ่านแน่นอนครับ4.สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ แหล่งที่มาของเนื้อหา ให้เราบอกแหล่งที่มาด้วยจะดีมาก เป็นการให้เครดิตกับผู้เขียน5.เมื่อได้เนื้อหาแล้ว ก็นำมาวางในพื้นที่สำหรับใส่เนื้อหา

วิธีการนำรูปภาพมาใส่เว็บบล็อกสามารถทำได้ดังนี้1.คลิกที่ไอคอนรูปภาพเล็กๆ เมื่อนำเม้าส์ไปวางด้านบนจะขึ้นข้อความว่า เพิ่มรูปภาพ จากนั้นจะขึ้นหน้าต่างด้านการจัดตำแหน่งของรูปภาพ2.จากนั้นคลิกที่ >>> Browse... เพื่อเลือกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ3.คลิกที่รูปแบบ (จะให้จัดรูปภาพไว้ตำแหน่งไหน)4.คลิกเครื่องหมายถูกที่ [ / ] ข้าพเจ้ายอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ5.คลิก >>> อัพโหลดรูปภาพ6.เสร็จขึ้นตอนการอัพโหลดรูปภาพ คุณสามารถคลิกที่รูปภาพแล้วลากไปที่ๆคุณต้องการได้ครับ เว็บไซต์ของคุณก็จะมีทั้งข้อความและรูปภาพน่าสนใจมากยิ่งขึ้น7.จากนั้นคลิกที่ >>> เผยแพร่ (ปุ่มแดงด้านล่าง) เพื่อเสร็จสิ้นการจัดทำเว็บบล็อก

เทคนิคเล็กน้อย
1.คลิกที่ >>> View Blog (ดูบล็อก) เพื่อตรวจดูเว็บบล็อกของเรา2.เครื่องมือต่างๆ ท่านสามารถศึกษาได้เพิ่มเติม เพราะว่าเป็นภาษาไทยหมด เพียงเท่านี้คุณก็ได้มีเว็บบล็อกเพื่อสมัครเป็นของตนเองแล้ว3.คุณสามารถที่จะสร้างเว็บบล็อกได้ไม่จำกัดหน้า สามารถตั้งหัวข้อใหม่ได้ไม่จำกัด ดังนั้นคุณสามารถที่จะเพิ่มเนื้อหา รายละเอียดต่างๆ ให้กับเว็บบล็อกของคุณให้น่าสนใจได้ตลอดเวลา

**เป็นอย่างไรบ้างครับกับการเรียนรู้การสร้างเว็บบล็อก Blogger ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ ตอนนี้เรามีเครื่องมือที่จะเดินทางกันแล้ว**

Step 2 : การสมัคร Blogger

Step 2 : การสมัคร Blogger



ขั้นตอนการสมัคร Blog สิ่งสำคัญต้องสมัคร Gmail มาเรียบร้อยก่อนจึงจะสมัคร Blog ได้สะดวก

1. คลิก >>> ที่นี่เพื่อสมัคร Blogger

2.คลิกที่ >>> สร้างเว็บบล็อกของท่านเดี๋ยวนี้ แล้วจะปรากฏหน้าต่างข้อมูล

3. ให้ใส่รายละเอียดดังนี้

ที่อยู่อีเมล : ใส่ Gmail ที่ได้สมัครไว้จากบทเรียนที่แล้วEnter Password : ใส่รหัสผ่านพิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง : ใส่รหัสผ่านอีกครั้งให้เหมือนกันDisplay name : ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อกการรับรองความถูกต้องของคำ : พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้องAcceptance for Terms : ติ๊กให้มีเครื่องหมายถูกคลิก >>>>> ดำเนินต่อไป

5. จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตามต้องการ เมื่อคลิกเลือกแล้ว คลิกที่ >>> ดำเนินต่อไป

6. เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถมีเว็บบล็อกเป็นของตัวเองไว้ใช้งานสำหรับทำเงินได้แล้วครับ

Step 1 : การสมัคร Gmail

Step 1 : การสมัคร Gmail



ก่อนที่เราจะมาสมัคร Gmail ผมมีอะไรอยากจะเสนอแนะนิดนึงคับก่อนที่เราจะสมัคร Gmail นั้น ให้คุณมองไปทางขวา ของ Website จะเห็นโปรแกรม Firefox อยู่ แนะนำให้โหลดไปนะคับ เพราะเวลาสมัคร Web ทาง Google จะมีคนเข้าใจจำนวนเยอะ ดังนั้น Firefox เวลาเปิดเน็ทมันจะทำงานเร็วขึ้น 2 เท่าคับผม

การสมัคร Gmail ไม่มีอะไรยุ่งยากนักแค่กรอกแบบฟอร์มเท่านั้นคับ


1. คลิก >>> ที่นี่เพื่อสมัคร Gmail

2. จากนั้นคลิกที่ ลงทะเบียน Gmail (Sing Up For Gmail) จะปรากฎหน้าต่าง สร้างบัญชี

3. พิมพ์รายละเอียดตามที่ปรากฎให้ครบ (เป็นภาษาอังกฤษนะครับ)

First name : ชื่อใส่ชื่อเราลงไปLast name : นามสกุลใส่นามสกุลเราลงไปDesird Login Name : ชื่อการเข้าสู่ระบบที่ต้องการCheck availability! : คลิกเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใช้แล้วหรือยังChoos a password : รหัสผ่านRe-enter a password : กรอกรหัสผ่านอีกครั้งSecurity Question : เลือกคำถามที่ต้องการAnswer : คำตอบSecondary email : เมล์สำรองเพื่อแจ้งปัญหาLocation : เลือกเป็น ราชอาณาจักรไทยThailand Word Verification : พิมพ์คำตามที่ปรากฎในรูปที่เห็น4.คลิก I accept Create my account (ฉันยอมรับโปรดสร้างบัญชีของฉัน)

** Finished : เป็นอันเสร็จสิ้นการสมัคร Gmail ครับผม **

Google AdSense $$$ (ทำเงินกับกูเกิ้ลง่าย ๆ)

Thai adsense คืออะไร Google AdSense คือบริการจาก Google ที่ให้ผู้ที่มีเว็บไซต์ สามารถหารายได้โดยการนำ Code ที่ได้จากการสมัครเป็นสมาชิกของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ของตนเอง ซึ่ง Code นั้นจะเป็น โฆษณาที่ส่งมาจาก Google โดยโฆษณานั้น ๆ จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่นถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โฆษณาที่ส่งมาจาก Google ก็อาจเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ โรงแรม,สายการบิน เป็นต้นโฆษณาที่ส่งมาจาก Google นั้น ๆ มีทั้งแบบ Text ,รูปภาพ และมีหลายขนาด ให้คุณได้เลือก นอกจากนั้นยังสามารถเลือกรูปแบบสีได้ตามความต้องการ เพื่อความเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณแล้วโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากไหน ??? หลายคงอาจสงสัย โฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทำ Google Adwords ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการของ Google ที่ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ โฆษณาสินค้าของตนเอง ผ่าน Search Engine ของ google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่นำ Google Adsense ไปติด เพื่อให้โฆษณาของตนเองอยู่ในตำแหน่งที่เด่น (เมื่อ Search ใน Google) กว่าข้อมูลอื่นที่ได้ผลลัพท์จากการค้นหา

สรุปหลักการง่ายๆ
: Google AdSense เป็นวิธีหาเงินง่ายๆ ด้วยเว็บไซต์/บล็อก โดยการนำโฆษณาที่ได้จาการสมัคร AdSense มาวางไว้ที่หน้าเว็บไซต์/บล็อกของคุณ เพื่อให้ผู้ชมเข้ามาดูหรือเข้ามาคลิก คุณก็ได้เงินทุกๆ ครั้งที่มีการคลิกโฆษณาหรือแสดงโฆษณานั้น แม้จะไม่มีการซื้อขายใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม ยิ่งมีผู้เข้ามามากและคลิกที่โฆษณามาก คุณก็ได้เงินมากตามไปด้วย
หากคุณพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนอนาคตคุณให้ดีขึ้น โดยที่
1. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
2. ไม่ต้องเสียเวลาเข้าอบรม
3. ไม่ต้องเสียค่ารถค่าเรือเดินทาง
4. ไม่ใช่การซื้อของ
5. ไม่ใช่การขายของ
6. ทุกขั้นตอนการทำฟรีหมด พร้อมคำแนะนำอย่างละเอียดยิบ ไม่มีกั๊ก ไม่มีหวงความรู้ เผยแพร่จากประสบการณ์ตรง
7. คุณเป็นเจ้าของ 100% (สามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ ตามความต้องการ)
8. สามารถพิสูจน์เห็นผลได้จริง ฯลฯ

คุณพร้อมกันแล้วหรือยัง ? ถ้าพร้อมแล้วลุยกันเลยย!!!
ขั้นตอนต่อไป >>> Step 1 : การสมัคร Gmail

วิธีเปลี่ยน Password hotmail



หลายท่านที่ใช้ Hotmail อาจจะต้องการเปลี่ยน password ของอีเมล์อยู่แต่ว่า มันเปลี่ยนตรงไหนละ บ้างคนก็รับ จดหมาย เป็นอย่างเดียว วันนี้จึงมีวิธีเปลี่ยนพาสอีเมล มาแนะนำครับง่ายๆ



วิธีเปลี่ยน Password hotmail

1. login เข้า User Hotmail ของเราปกติ


2. สังเกตมุมบนด้านขวามือจะมีคำว่า “ตัวเลือก” ถ้าเป็นภาษอังกฤษก็ “Option” คลิกเข้าไปเลยครับ ไม่ก็หน้าตาของ hotmail ใหม่มันจะมีลูกศรชี้ลงมาจากชี้ของเราตามภาพประกอบให้คลิกที่ลูกศร




3. มีเมนูยื่นลงมา ล่างสุดจะเป็น “ตัวเลือก” “options”


4. ให้คลิกไปที่คำว่า รหัสผ่าน ใต้ล่างคำว่าบัญชีเลยครับ เปลี่ยนรหัสผ่านที่คุณใช้ในการลงชื่อเข้าใช้ Windows Live




  • 5. ดูที่ “ข้อมูลการกำหนดรหัสผ่านใหม่” รหัสผ่าน:****** เปลี่ยน, “Password reset information” Password: ****** Change คลิกที่นี่เลย

 
  • 6. ใส่รหัสผ่านเดิม ใส่รหัสผ่านใหม่ ยืนยันรหัสผ่านใหม่ กด บันทึก
    แค่นี้คุณก็เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ ให้กับ Hotmail ได้แล้วครับ









Google+ ได้เปิดให้บริการกับผู้ใช้ทั่วโลก

หลังจากที่ Google+ เปิดให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์แห่งใหม่ในลักษณะที่สมาชิกต้องขอ invite เพื่อเข้าใช้บริการมาได้ 3 เดือนแล้ว ซึ่งในส่วนของกระแสการยอมรับก็ต้องถือว่า ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ทั่วโลกพอสมควร ที่สำคัญมันยังทำให้ผู้่นำตลาดอย่าง Facebook ต้องปรับตัวหลายกระบวนท่าเลยทีเดียว ล่าสุด Google+ ได้เปิดให้บริการกับผู้ใช้ทั่วโลกที่สนใจจะเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายสังคมแห่งนี้แล้ว
สำหรับบริการของ Google+ จะไม่มีความสัมพันธ์แบบ "เพื่อน" (friend) ในลักษณะที่ผู้ใช้รู้สึกถูกบังคับให้ยอมรับ โดยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ Google+ ซึ่งรวมถึงผู้คนต่างๆ ที่พวกเขาแชร์ข้อมูลด้วยจะถูกกำหนดให้มีความเป็นส่วนตัว (privacy) ตั้งแต่แรก นอกจากนี้ยังมีบริการที่แตกต่างจากผู้นำตลาดอย่าง Facebook ด้วย เช่น คุณสมบัติวิดีโอแชทที่สามารถพูดคุยพร้อมกันเป็นกลุ่มได้ เรียกว่า Hangouts โดยคุณสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ ผ่านบริการนี้ได้สูงสุดถึง 10 คน เพื่อพูดคุยกันแบบเห็นหน้าผ่านวิดีโอได้



อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา การเติบโตของ Google+
ก็มีข้อจำกัด และอุปสรรคอยู่พอสมควร เนื่องจากสมาชิกที่จะมีสิทธิ์เข้าใช้บริการจะต้องได้รับการ invite โดย Google หรือจากผู้ใช้คนอื่นที่อยู่ในเครือข่ายนี้แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น บ่อยครั้งที่ผู้ใช้ถูกบังคับให้ signup ใหม่ แม้จะถูก invite แล้วก็ตาม แต่ก็มีผู้สนใจเข้าร่วมเครือข่ายของ Google+ หลายสิบล้านคน ประเด็นคือ Google+ ไม่ได้แจกแจงผู้ใช้บริการที่แอคทีฟ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ มีปัญหาเรื่องของระบบที่ไม่สามารถรองรับการเข้าใช้บริการที่มากเกินไปได้

ล่าสุดเมื่อวานนี้ Google ได้ประกาศเปิดให้ผู้ใช้ที่สนใจทั่วโลกสามารถสมัครเป็นสมาชิก เพื่อใช้บริการ Google+ ได้แล้ว โดยไม่ต้องมี invite ให้วุ่นวายอีกต่อไป ซึ่ง Vic Gundotra ผู้บริหาร Google ประกาศในบล็อกว่า นอกจากจะเปิดให้ใช้บริการได้ทุกคนแล้ว Google+ ยังได้ปรับปรุงคุณสมบัติการทำงานต่างๆ มากถึง 99 ฟีเจอณ์ด้วยกันนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับคุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip ที่สนใจจะลงทะเบียนใช้บริการสามารถเข้าไปได้ที่ plus.google.com เพื่อสร้าง username และ password หรือใช้แอคเคาท์ Gmail หรือ GOogle ที่มีอยู่แล้ว



ในส่วนของผู้ใช้ iPhone หรือ Android สามารถติดตั้งแอพฯ Google+ ได้ฟรี ซึ่งมันสามารถอัพโหลดภาพถ่าย หรือวิดีโอที่คุณบันทึกผ่านมือถือเข้าไปในพื้นที่ในบัญขีผู้ใช้ Google+ ชองคุณได้โดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่า มันง่าย และเร็วมากในการที่คุณจะแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้กับกลุ่มต่างๆ ตามที่คุณต้องการ และเพียงไม่กี่คลิกบนคอมพิวเตอร์ เพื่อโพสต์มันขึ้นไปที่เฟซบุ๊คได้อีกด้ว

กฎระเบียบของ Adsense

กฎระเบียบของ Adsense1. คลิกAdsตัวเองหลายๆครั้ง 2. ใช้ Software pop-up 3. เขีนโฆษณาเชิญให้คนอื่นคลิกAdsตัวเอง4. ดัดแปลง code adsense5. ทำโฆษณาเกินจริง และใช้คำโฆษณา Hardsale เกินไป6. การนำเว็บไปฝากกับระบบ auto surf7. นำAdsense Ads ไปวางเว็บต้องห้าม เช่น เว็บโป้ เว็บการพนัน เว็บขายยาเสพติดและอุปกรณ์ เป็นต้น เพิ่มเติม ห้ามวาง Google AdSense ในเว็บไซต์ต้องห้าม ดังต่อไปนี้- เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย- เว็บไซต์การพนัน คาสิโน- เว็บไซต์ภาพลามก อนาจาร - เว็บไซต์ที่มีคำหยาบคาย- เว็บไซต์กลุ่มต่อต้าน หรือ องค์กรที่ใช้ความรุนแรง หรือ ก่อการร้าย- เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ Hacking หรือ Cracking- เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการโฆษณามากเกินไป เพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย - เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ ยา และ อุปกรณ์การแพทย์ที่ผิดกฎหมาย- เว็บไซต์ Spam Keyword- เว็บไซต์เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ หรือ ปลอมแปลงสินค้า- เว็บไซต์อาวุธสงคราม- เว็บไซต์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์- เว็บไซต์บุหรี่กฎ กติกา ในการวางโฆษณา Google AdSenseในแต่ละหน้าเว็บเพจ สามารถวางโฆษณาได้ ดังนี้- วางโฆษณาแบบโฆษณาเกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ ได้สูงสุด 3 หน่วยโฆษณา (Ads Unit) - วางโฆษณาแบบโฆษณาเกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ แบบลิงค์ ได้ 1 หน่วยโฆษณา (Link Unit) - วางโฆษณาจากการค้นหาเว็บไซต์ ได้สูงสุด 2 อัน (Search Box) - วางโฆษณาจากการแนะนำบริการ ได้อย่างละ 1 อัน (Referral : AdSense 1 อัน, AdWords 1 อัน, Firefox 1 อัน)ข้อห้าม ในการวางโฆษณา Google AdSense - ห้ามทำการดัดแปลง Code โฆษณาอย่างเด็ดขาด ทุกกรณี- ห้ามคลิกโฆษณาเอง หรือ บอกให้เพื่อนๆ ช่วยมาคลิก หรือการกระทำในทำนองนี้ - ห้ามเขียนคำเชิญชวน หรือ ข้อความให้ช่วยคลิก หรือเขียนบอกให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้คลิก ตัวอย่างเช่น "เพื่อความอยู่รอดของเว็บไซต์ โปรดช่วยคลิกด้วย" ให้ใช้ได้แค่ "sponsored links" หรือ "advertisements" เท่านั้น - ทำเนื้อหาอย่างเดี่ยว แล้ว Copy ออกมาเป็นหลาย ๆ หน้า - ห้ามวางโฆษณา Google AdSense ในหน้า Download - ห้ามวางโฆษณา Google AdSense ในหน้าที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย - ห้ามวางโฆษณา Google AdSense ในอีเมล์ - ห้ามวาง Google Adsense ในหน้าที่ทำขึ้นมาเพื่อ เฉพาะเจาะจงที่จะให้แสดง Google Adsense - ห้ามวาง Google AdSense ในโฆษณา Pop Up, Pop Under - ห้ามวาง Google AdSense ใน Soft Ware เพื่อบังคับให้คลิกโดยอัตโนมัติ หรือ เว็บไซต์รับจ้างคลิกโฆษณา - ห้ามวาง Google AdSense ใน Soft Ware เพื่อทำการโปรโมทเว็บของคุณ เช่น Web Promotor - หน้าเว็บเพจที่วาง Google AdSense ต้องไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งไปปิดบัง หรือ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นโฆษณาทั้งหมด หรือ ทำ Code โฆษณาให้ไม่สามารถมองเห็นโฆษณาได้ทั้งหมด โดยใช้เทคนิค เช่น สีตัวอักษรเป็นสีเดียวกับพื้นหลังเว็บไซต์ เป็นต้น - เครื่องหมายการค้าของ Google อย่าเอาแบนเนอร์ หรือโลโก้ ของ Google มาใช้โดยเด็ดขาด - ถ้าทาง Google ส่งอีเมล์แจ้ง หรือ ตักเตือนในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จากการใช้งาน Google AdSense ให้รีบตอบกลับทางอีเมล์

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Google AdSense for Makemoney 2013 !!!

AdSense for Feeds
In May 2005, Google announced a limited-participation beta version of AdSense for Feeds, a version of AdSense that runs on RSS and Atom feeds that have more than 100 active subscribers. According to the Official Google Blog, "advertisers have their ads placed in the most appropriate feed articles; publishers are paid for their original content; readers see relevant advertising—and in the long run, more quality feeds to choose from."
AdSense for Feeds works by inserting images into a feed. When the image is displayed by a RSS reader or Web browser, Google writes the advertising content into the image that it returns. The advertisement content is chosen based on the content of the feed surrounding the image. When the user clicks the image, he or she is redirected to the advertiser's website in the same way as regular AdSense advertisements.
AdSense for Feeds remained in its beta state until August 15, 2008, when it became available to all AdSense users.

 AdSense for search

A companion to the regular AdSense program, AdSense for search, allows website owners to place Google Custom Search boxes on their websites. When a user searches the Internet or the website with the search box, Google shares 51% of the advertising revenue it makes from those searches with the website owner. However the publisher is paid only if the advertisements on the page are clicked; AdSense does not pay publishers for regular searches. Web publishers have reported that they also pay a range from $0.64 to $0.88 per click.

 AdSense for mobile content

AdSense for mobile content allows publishers to generate earnings from their mobile websites using targeted Google advertisements. Just like AdSense for content, Google matches advertisements to the content of a website — in this case, a mobile website. Instead of traditional JavaScript code, technologies such as PHP, ASP and others are used.

 AdSense for domains

AdSense for domains allows advertisements to be placed on domain names that have not been developed. This offers domain name owners a way to monetize domain names that are otherwise dormant or not in use. AdSense for domains is currently being offered to all AdSense publishers, but it wasn't always available to all.
On December 12, 2008, TechCrunch reported that AdSense for Domains is available for all US publishers.
On February 22, 2012, Google announced that it was shutting down its Hosted AdSense for Domains program.

 AdSense for video

AdSense for video allows publishers with video content to generate revenue using ad placements from Google's extensive Advertising network including popular YouTube videos.

 How AdSense works

  • The webmaster inserts the AdSense JavaScript code into a webpage.
  • Each time this page is visited, the JavaScript code uses inlined JSON to display content fetched from Google's servers.
  • For contextual advertisements, Google's servers use a cache of the page to determine a set of high-value keywords. If keywords have been cached already, advertisements are served for those keywords based on the AdWords bidding system. (More details are described in the AdSense patent.)
  • For site-targeted advertisements, the advertiser chooses the page(s) on which to display advertisements, and pays based on cost per mille (CPM), or the price advertisers choose to pay for every thousand advertisements displayed.[
  • For referrals, Google adds money to the advertiser's account when visitors either download the referred software or subscribe to the referred service. The referral program was retired in August 2008.
  • Search advertisements are added to the list of results after the visitor performs a search.
  • Because the JavaScript is sent to the Web browser when the page is requested, it is possible for other website owners to copy the JavaScript code into their own webpages. To protect against this type of fraud, AdSense customers can specify the pages on which advertisements should be shown. AdSense then ignores clicks from pages other than those specified.

Overview Makemoney

Google uses its Internet search technology to serve advertisements based on website content, the user's geographical location, and other factors. Those wanting to advertise with Google's targeted advertisement system may enroll through Google AdWords. AdSense has become a popular company in creating and placing banner advertisements on a website, because the advertisements are less intrusive than most banners, and the content of the advertisements is often relevant to the website.
Many websites use AdSense to monetize their content; it is the most popular advertising network. AdSense has been particularly important for delivering advertising revenue to small websites that do not have the resources for developing advertising sales programs and sales people to generate revenue with. To fill a website with advertisements that are relevant to the topics discussed, webmasters place a brief HTML code on the websites' pages. Websites that are content-rich have been very successful with this advertising program, as noted in a number of publisher case studies on the AdSense website. AdSense publishers may only place three ad units per page.
Some webmasters put significant effort into maximizing their own AdSense income. They do this in three ways:
  1. They use a wide range of traffic-generating techniques, including but not limited to online advertising.
  2. They build valuable content on their websites that attracts AdSense advertisements, which pay out the most when they are clicked.
  3. They use text content on their websites that encourages visitors to click on advertisements. Note that Google prohibits webmasters from using phrases like "Click on my AdSense ads" to increase click rates. The phrases accepted are "Sponsored Links" and "Advertisements".
The source of all AdSense income is the AdWords program, which in turn has a complex pricing model based on a Vickrey second price auction. AdSense commands an advertiser to submit a sealed bid (i.e., a bid not observable by competitors). Additionally, for any given click received, advertisers only pay one bid increment above the second-highest bid. Google currently shares 68% of revenue generated by AdSense with content network partners, and 51% of revenue generated by AdSense with AdSense for Search partners.

History Makemoney

History
Oingo, Inc., a privately held company located in Los Angeles, was started in 1998 by Gilad Elbaz and Adam Weissman. Oingo developed a proprietary search algorithm that was based on word meanings and built upon an underlying lexicon called WordNet, which was developed over the previous 15 years by researchers at Princeton University, led by George Miller.
Oingo changed its name to Applied Semantics in 2001, which was later acquired by Google in April 2003.
Google launched its AdSense program in March 2003 and made it public in June of that year. Some advertisers complained that AdSense yielded worse results than AdWords, since it served ads that related contextually to the content on a web page and that content was less likely to be related to a user's commercial desires than search results. For example, someone browsing a blog dedicated to flowers was less likely to be interested in ordering flowers than someone searching for terms related to flowers. As a result, in 2004 Google allowed its advertisers to opt out of the AdSense network.
By early 2005 AdSense accounted for an estimated 15 percent of Google's total revenues.
In 2009, Google AdSense announced that it would now be offering new features, including the ability to "enable multiple networks to display ads".
In February 2010, Google AdSense started using search history in contextual matching to offer more relevant ads.

Makemoneys 2013

Google AdSense is a program run by Google Inc. that allows publishers in the Google Network of content sites to serve automatic text, image, video, and rich media adverts that are targeted to site content and audience. These adverts are administered, sorted, and maintained by Google, and they can generate revenue on either a per-click or per-impression basis. Google beta-tested a cost-per-action service, but discontinued it in October 2008 in favor of a DoubleClick offering (also owned by Google). In Q1 2011, Google earned US $2.43 billion ($9.71 billion annualized), or 28% of total revenue, through Google AdSense.

education

Open
Higher education in particular is currently undergoing a transition towards open education, elearning alone is currently growing at 14x the rate of traditional learning.Open education is fast growing to become the domiment form of education, for many reasons such as it's superior efficiency and results compared to traditionalist methods. Cost of education has been an issue throughout history, and a major political issue in most countries today. Open education is generally significantly cheaper than traditional campus based learning and in many cases even free. Many large university institutions are now starting to offer free or almost free full courses such as Harvard, MIT and Berkeley teaming up to form edX Other universities offering open education are Stanford, Princeton, Duke, Johns Hopkins, Edinburgh, U.Penn, U. Michigan, U. Virginia, U. Washington, Caltech. It has been called the biggest change in the way we learn since the printing press.Many people despite favorable studies on effectivness may still desire to choose traditional campus education for social and cultural reasons.
The conventional merit system degree is currently not as common in open education as it is in campus universities. Although some open universities do already offer conventional degrees such as the Open University in the United Kingdom. Currently many of the major open education sources offer their own form of certificate. Due to the popularity of open education these new kind of academic certificates are gaining more respect and equal "academic value" to traditional degrees. Many open universities are working to have the ability to offer students standardized testing and traditional degrees and credentials.
There has been a culture forming around distance learning for people who are looking to enjoy the shared social aspects that many people value in traditional on campus education that is not often directly offered from open education. Examples of this are people in open education forming study groups, meetups and movements such as UnCollege.

Our Newsfeeds are better

Our Newsfeeds are better

Easiest to use: No fiddling with RSS readers. No complicated programming. If you can copy-and-paste text, you can install our headlines in 30 seconds or less.

Compatible with all sites: Our headlines are designed to seamlessly drop into any space, on any page. They mimic the stylesheets of your site, making them virtually hassle-free. But if you ever need help tweaking them, just ask.

No program to join: Others want you to sign-up for their program. Some even demand that you "apply". They want your email address and other personal info. At freshcontent.net, you can grab the html you'll need without ever contacting us. We'll never even know you were here.

Quality headlines are ensured: We work with only the best news sources: The New York Times, CNET, About.com, BBC, to name a few. And we're always working to improve our content.

More Reliable Freshness: After enduring the hassle of installing an XML or RSS feed, you are forced to depend on a single news source to keep things fresh. The result? You might end up running the same stories all week long. At freshcontent.net, we pool the headlines of various sources. So your visitors can count on seeing at least three new stories every day.

Stories open in additional browser: You don't have to worry about sending visitors to another site because every time they click on a headline, the article opens in an additional browser. So your visitors never actually leave your site.

No Spyware or Adware: We certainly do not invade your privacy. Nor do we work with news sources that do.


Importance of Daily Giveaways

Here's an important tip: Adding our "Free Stuff" newsfeed is guaranteed to build visitor loyalty for your site. Like bees to pollen, folks are absolutely drawn to free stuff. And if your visitors knew you had daily freebies, they'd probably be back more often, right? In fact, they just might come back each and every day. And they'll definitely tell their friends. The "Free Stuff" newsfeed is the easiest and most effective way to build visitor loyalty. So don't just plug it in to your site. Promote it aggressively and it will pay you back in spades.